เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Western Digital ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่นั่นก็คือ Advanced Format (AF) ที่จะนำมาใช้กับ harddisk รุ่นใหม่ๆ ของทางบริษัทเอง โดย Advanced Format คือหนึ่งในเทคโนโลยียุคใหม่ที่ถือว่าจะปฏิวัติวงการ harddisk แบบจานหมุนเลยก็คงไม่ผิดนัก
Advanced Format คืออะไร ?
ก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่าสามสิบปี ขนาดของ sector บน harddisk ทั่วๆ ไปที่เราใช้กันอยู่คือขนาด 512 byte ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันมาตรฐานทุกยี่ห้อ โดยที่แต่ละ sector จะมีตัวกำกับอยู่ข้างๆ คือ ECC (Error Correction Code) มีขนาด 40 bit อยู่ทุกๆ sector ECC มีหน้าที่แก้ไขยามข้อมูลเกิดการผิดพลาด และมีส่วนที่ใช้ในการบอกข้อมูลตำแหน่งของ sector อีกส่วนนึงด้วย ซึ่งใน harddisk รุ่นปัจจุบันจะเป็นแบบนี้ ลองคิดดูง่ายๆ ว่าขนาดของ harddisk ที่มากขึ้นเรื่อยๆ จำนวน sector ก็มากรวมถึง ECC ก็จะมากตามไปด้วย (ยังไม่รวมช่องว่างระหว่าง sector อีก) ซึ่งส่วนนี้เราไม่สามารถนำมาใช้งานได้เลย รวมถึงทำให้เปลืองเนื้อที่ platter (แผ่นจานที่ใช้เก็บข้อมูลบน harddisk ) อีกต่างหาก
ดังนั้น Advanced Format จึงทำการแก้ไขซะจากขนาด 512 byte เดิมๆ ให้ขยายกลายเป็น 4096 byte รวมถึงจับเอา ECC ที่เยอะจนลายตาจับมาไว้รวมในที่เดียวกันโดยมีขนาดเหลือเพียง 100 bit เท่านั้น (ของเดิมรวมๆ แล้วจะมีขนาดถึง 40*8 = 320 bit) ประหยัดไปได้กว่า 220 bit เลยทีเดียวเชียว
ข้อดีของ Advanced Format ?
สิ่งที่จะได้เพิ่มเติมจาก Advanced Format คือสามารถใช้งานแผ่น platter ได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถเก็บได้มากขึ้นและใช้จำนวนแผ่น platter น้อยลง (harddisk ปัจจุบันส่วนมาก 1TB จะใช้แผ่น platter ประมาณสองแผ่น) และสามารถตัด track ด้านในสุดออก (เนื่องจากเป็น track ที่อยู่วงใน ก็จะหมุนช้ากว่าทำให้ข้อมูลส่งได้ช้ากว่าด้วย) ทำให้ได้ประสิทธิภาพของ harddisk ที่สูงขึ้นอีกด้วย
แต่ข้อสังเกตก็มีเช่นกันคือ Windows XP จะไม่รองรับการทำงานแบบ advanced format โดยตรง โดยผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องให้ harddisk ทำการจำลองขนาด sector แบบ 512 byte ขึ้นมาใช้งานเองโดยมีทางเลือกสองทางคือ หากใช้แบบ partition เดียวก็สามารถเซ็ท jumper หลังตัว harddisk ได้เลย หากจะใช้หลาย partition ก็จำเป็นที่จะต้องใช้โปรแกรมจัดการ harddisk อย่าง WDAlign มาช่วยในการจัดด้วย มิฉะนั้นประสิทธิภาพจะได้ไม่เต็มที่ครับ
Harddisk รุ่นไหนที่รองรับ Advanced Format ?
Harddisk รุ่นที่รองรับ Advanced Format ขณะนี้จะเป็นรุ่นความจุ 1TB ขึ้นไป ในรหัส WDxxEARS โดยให้สังเกตที่ตัว R ด้านหลังครับ รุ่นเก่าจะเป็น WDxxEADS โดยในรุ่นใหม่รหัส EARS นี้จะมีสิ่งที่พัฒนาขึ้นคือใช้ Advanced Format และเพิ่มขนาดของ cache จากเดิม 32 MB เป็น 64 MB ซึ่งปัจจุบันรหัสนี้ได้ถูกนำมาจำหน่ายในบ้านเราแล้วซึ่งจะเป็นตระกูล Caviar Green นั่นเองครับ
สำหรับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นนั่นสามารถดูได้จากผลการทดสอบด้านล่างเลยครับ โดยเป็นผลการทดสอบจากเว็บ HotHardware ที่ทำการเปรียบเทียบสามอย่างคือแบบ Align และ Unalign (ไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ WDAlign หรือเซ็ทจัมเปอร์) เทียบกับในรุ่น Caviar Black เทสบน Windows XP สำหรับผลที่ได้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ ท่าทางว่าตอนซื้อ Harddisk ตัวต่อไปจะต้องเป็นรหัสใหม่เสียแล้วละ
สำหรับผลทดสอบสามารถเข้าไปชมได้ในแหล่งที่มาด้านล่างนะครับ
Source: HotHardware
กระผมก็ใช้ตัวนี้นะ แต่ 500Gb
ถือว่า ฮะแรงงงงใช้ได้
Super post, tienen que marcarlo en Digg
Gracias
Doggy
ขอบคุณมากครับได้ความรู้มากๆ
อยากให้มีวิธีformat รุ่นนี้ครับ ต้องทำยังไง
รวมถึง วิธีแบ่ง พาเทชั่นด้วย
ช่วยแปลหน่อยครับ
http://www.wdc.com/en/products/advancedformat/