Nikon เปิดตัว Nikon D800 ตัวตายตัวแทน D700

อีกครั้งที่ Nikon กระตุ้นสงครามตลาดกล้องระดับโปรกันตั้งแต่ต้นปี เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Nikon ได้เปิดตัว Nikon D4 กล้องรุ่นระดับบนสุดของค่ายตัวเองไปแล้ว คราวนี้ถึงรุ่นที่หลายคนรอคอยกันแล้วนั่นก็คือ Nikon D800 ที่จะมาแทน D700 หลังจากที่ออกวางจำหน่ายมาก็หลายปีสำหรับแฟนๆ ค่าย Nikon คงทราบกันดีว่ากล้องในซีรี่ส์ Dxxx เป็นกล้องระดับโปรที่เหมาะสมแก่การใช้งานภายนอกอย่างมาก และมีความกระทัดรัดน่าใช้กว่าซีรี่ส์ระดับบนสุดที่เน้นงานในสตูดิโอเสียมากกว่า สำหรับ D800 มีลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกเพียบ เริ่มตั้งแต่ความละเอียดที่เพิ่มขึ้นมามากกว่า 2 เท่า ฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD รวมถึงสามารถต่อไมค์แบบ Stereo ด้านนอกได้ด้วย สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ผมสรุปมาให้แล้วข้างล่าง

Nikon D800
Nikon D800

Nikon D800 Specifications

  • 36.3 Megapixel image sensor (16 bit EXPEED 3 image processing)
  • สามารถถ่ายภาพได้ทั้ง FX and DX Mode (DX ภาพจะถูกครอปลงมาเหลือ 15.1 megapixel)
  • ISO 100-6400 (สูงสุดที่ 25600 ใน extended mode)
  • 1080p video shooting (24, 25, 30 fps)
  • 720p video shooting (60 fps)
  • บันทึกวิดีโอได้สูงสุด 29:59 นาทีในครั้งเดียว
  • multi-format video shooting (FX, DX mode)
  • ระบบตรวจจับใบหน้าขณะถ่ายวิดีโอ
  • สามารถต่อไมค์ stereo ด้านนอกได้ รวมถึงสามารถต่อหูฟังได้ด้วย
  • ระบบ autofocus ที่สามารถจับโฟกัสในที่มืดได้ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก รองรับสูงสุดถึง -2EV (ประมาณแสงจากดวงจันทร์อย่างเดียว)
  • จอ LCD ขนาด 3.2 นิ้วความละเอียด 921k
  • มุมมองใน viewfinder เห็นทุกส่วนในเฟรม 100%
  • ชัตเตอร์รองรับการทำงานสูงถึง 2 แสนครั้ง
  • รองรับ USB 3
  • รองรับ SD Card และ CF (ยังไม่รองรับ XQD)
  • รองรับการส่งภาพผ่าน HDMI แบบไม่บีบอัด
  • มีโหมดรองรับการถ่าย time-lapse ในตัว

นอกจากนี้ Nikon ออกกล้องอีกรุ่นนึงคือ Nikon D800E ที่ตัดเอา anti-alias filter ออก ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคมชัดของรูปภาพมากขึ้น แต่ก็ต้องเสี่ยงกับ moire effect เช่นกัน ราคาจะแพงขึ้นมาอีกนิดนึงครับ

Nikon D800 ราคาจะอยู่ที่ $3000 ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณเกือบ 110,000 บาท ส่วน D800E จะแพงกว่ารุ่นแรกประมาณเกือบหนึ่งหมื่นบาทครับ มีกำหนดการวางจำหน่ายเดือนมีนาคมนี้ ส่วน D800E จะวางขายในเดือนเมษายน

 

Source: Geek.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *