iPad Air บาง เบา และแรง

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา สำหรับ Tablet รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท Apple ที่หลายคนรอคอยกันอย่าง iPad ที่มาพร้อมกับการอัพเดทหลายอย่างที่น่าสนใจ นอกจาก iPad Mini ที่เพิ่งเปิดตัวและผมลองเปรียบเทียบ iPad Mini 1 vs Mini 2 กันไปแล้ว มาถึงคราวของรุ่นใหญ่กันบ้าง

มาถึงรุ่นที่ 5 Apple ทำการเปลี่ยนแปลงอะไรเสียใหม่แทบจะทั้งหมด เรียกได้ว่ารุ่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ iPad 2 เป็นต้นมา แถมมาพร้อมกับชื่อใหม่อย่าง iPad Air อีกด้วย

ขนาดหน้าจอนั้นยังคงเท่าเดิมคือ 9.7 นิ้ว แต่มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก iPad Mini โดยมีน้ำหนักประมาณ 450 กรัมเท่านั้น เบากว่ารุ่นเดิมพอสมควรเลยทีเดียว รวมถึง iPad Air ยังมาพร้อมกับความบางเพียง 7.5 มิลลิเมตรเท่านั้น บางกว่ารุ่นก่อนหน้า 25%

ขอบจอด้านข้างก็บางกว่ารุ่นก่อนหน้า 43% ทำให้ตัวเครื่องดูสวยงามยิ่งขึ้นและมีการหักมุมเหมือน iPad Mini และด้านหลังก็ยังคงการทำสโลปสไตล์รุ่นดั้งเดิมไว้ ส่วน TouchID Sensor ก็ถือว่าน่าเสียดายที่ยังไม่ได้มาพร้อมกับรุ่นนี้ (แต่รุ่นหน้าก็รู้กัน)

ด้านหน่วยประมวลผลก็มาพร้อมกับ A7 processor ที่มีความเร็วมากกว่า iPad รุ่นแรกถึง 72 เท่าในด้านการประมวลผลกราฟิก (การทำงานทั่วไปเร็วกว่า 8 เท่า) มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลร่วม M7 เหมือนใน iPhone 5S เช่นเดียวกัน

ด้าน Wireless มาพร้อมกับรองรับ MIMO (Multiple In Multiple Out) และแบตก็ใช้งานได้ 10 ชั่วโมงตามมาตรฐานที่รู้กัน

กล้องส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง รองรับความละเอียด 5 ล้านถ่ายวิดีโอได้ 1080p

ราคาจะเริ่มต้นที่ $499 (ประมาณ 16000 บาท) สำหรับรุ่นปกติ Wi-Fi อย่างเดียว ส่วนหากใครอยากใช้ 3G หรือ LTE นอกบ้านก็ต้องควักกันเยอะนิดหน่อยโดยเริ่มที่ $629 (ประมาณ 19000 บาท)  วางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายนนี้

ดูเหมือนรุ่นนี้จุดเด่นคือความบางและเบาจริงๆ แต่หากเทียบสเปคแล้วใครชอบหน้าจอเล็กๆ อาจจะเหมาะกับ iPad Mini 2 มากกว่าครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *