Safe Mode เปลี่ยนไป… วิธีเข้า Safe Mode ของ Windows 10

ยุคนี้ พ.ศ. นี้ผมมั่นใจว่าหลายคนหันมาใช้ Windows 10 กันไม่มากก็น้อย จะด้วยความสมัครใจหรือไม่ก็ตาม (555+) แต่หนึ่งในเรื่่องที่ควรทราบไว้คือ หากเครื่องมีปัญหานั้นเราไม่สามารถกด F8 รัว ๆ ตอนบูทเพื่อเข้าสู่เมนูที่มีให้เลือกเข้า Safe Mode ได้อีกต่อไปแล้ว จริง ๆ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ได้มาครั้งแรกบน Windows 10 แต่ปรับมาตั้งแต่ Windows 8 ถึงแม้ว่าจะกด F8 รัว ๆ ไม่ได้อีกต่อไป แต่ก็ยังสามารถเข้าสู่ Safe Mode ได้โดยใช้วิธีการต่อไปนี้ ซึ่งมีหลายแบบด้วยกัน

การเข้า Safe Mode โดยใช้หน้าจอการตั้งค่าระบบ

1. กดปุ่ม ctrl + r จะมีหน้าต่าง run ปรากฎขึ้นมา พิมพ์ msconfig

windows_10_safemode_001

2. ไปยังแท็บที่ชื่อว่า Boot จะมีหัวข้อเลือก Safe Mode ด้านล่าง ติ๊กถูกเพื่อเปิดการเข้าสู่ Safe Mode โดยจะมีให้เลือกทั้งการบูทแบบ Minimal, Alternate Shell, Active Directory Repair, Network และนั่นคือข้อดีของการใช้วิธีนี้โดยสามารถเลือกออปชั่นเสริมที่บอกมาได้

windows_10_safemode_002

3. เมื่อพร้อมแล้วกดปุ่ม OK จะมีหน้าจอถามว่าต้องการ restart เครื่องหรือไม่ หากต้องการ restart กดปุ่ม Restart ได้เลย เราก็จะสามารถเข้าสู่ Safe Mode ได้ในการบูทครั้งต่อไป

windows_10_safemode_003

 

ใช้ปุ่ม Shift + Restart

วิธีนี้ง่ายและเร็วที่สุด โดยให้เรากดปุ่มเพื่อที่จะ restart เครื่องตามปกติ แต่จะแตกต่างไปกว่าเดิมนิดหน่อยตรงที่ก่อนที่เราจะกดคำว่า restart ให้กดปุ่ม Shift บนคีย์บอร์ดค้างไว้ด้วยพร้อมกับการคลิกคำว่า restart เท่านี้การบูทครั้งต่อไปก็จะบูทเข้า Safe Mode ในทันที

windows_10_safemode_004

windows_10_safemode_005

คำถามคือหากบูทเข้าหน้าจอ desktop ไม่ได้จะทำอย่างไร และนั่นคือสิ่งที่หลายคนเริ่มถวิลหา Safe Mode มากกว่าการใช้งานปกติ ยังมีอีกสองวิธีที่จะทำให้เราเข้าสู่ Safe Mode ได้ ทั้งแบบการเตรียมตัวล่วงหน้าและแบบไม่ได้เตรียมตัว

วิธีใช้ Recovery Drive

Windows 10 จะให้เราสร้าง Recovery Drive ได้สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งผมแนะนำให้ทุกคนควรมีไว้เพื่อที่จะบูทเข้าสู่ Safe Mode ได้แบบไม่มีข้อแม้ และยังมีอีกหลายออปชั่นที่ช่วยเครื่องเราได้แม้กระทั่งการลง Windows ใหม่ โดยสามารถเข้าไปสร้างไดรฟ์นี้ได้ผ่านเมนู Control Panel -> Recovery เมื่อเข้าไปจะมีหน้าจอให้สร้าง Recovery Drive ไปตามลำดับ

windows_10_recovery_drive

windows_10_recovery_drive_001

เมื่อใช้ไดรฟ์นี้บูทแล้วจะมีหน้าจอดังภาพ ให้เลือก layout keyboard เราสามารถเลือก us keyboard ไปก่อนก็ได้หากไม่ได้ต้องการใช้แป้นไทย (เราคงไม่พิมพ์อะไรไทย ๆ ใน Safe Mode กันอยู่แล้วมั้ง) หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอสีฟ้า

windows_10_keyboard_layout_selection

หน้าจอสีฟ้า

เป็นหน้าจอที่จะโผล่ขึ้นมาเพื่อซ่อมแซมเครื่องเมื่อบูทผ่าน Recovery Drive หรือหากเครื่องถูกกด Reset หลาย ๆ ครั้ง ก็จะเข้ามาหน้าจอนี้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเราสามารถเข้าสู่ Safe Mode วิธีการก็คือเลือกปุ่ม Troubleshoot

windows_10_recovery_screen_001

หน้าจอต่อมาน่าสนใจไม่น้อย Windows 10 จะมีออปชั่นจะให้เรา Reset PC ได้ (สามารถเลือกได้ทั้งลงวินโดวส์ใหม่แบบเก็บไฟล์ไว้หรือล้างเครื่องไปเลย) แต่เราต้องการเข้า Safe Mode คลิก Advanced options

windows_10_recovery_screen_002

หน้าจอต่อมาจะพบกับออปชั่นต่าง ๆ มากมาย ซึ่งควรทราบไว้ แต่เราต้องการเข้า Safe Mode คลิกที่ปุ่ม Startup Settings

windows_10_recovery_screen_003

ออปชั่นนี้จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบูทของ Windows 10 เมื่อพร้อมให้กดปุ่ม Restart ด้านล่าง

 

windows_10_recovery_screen_004

คอมพิวเตอร์จะบูทใหม่อีกครั้งและจะพบกับหน้าจอนี้ ซึ่งคงคุ้นเคยกันดี ให้เลือกออปชั่น 4-6 ตามที่เราต้องการ โดยการใช้ปุ่มบนคีย์บอร์ด (จะ 4-6 หรือ F4-F6) ก็ได้ตามใจ เท่านี้ก็สามารถเข้าสู่ Safe Mode ได้แล้ว

 

windows_10_recovery_screen_005

จริง ๆ ยังมีวิธีการเข้าสู่ Safe Mode ได้แบบคล้าย ๆ วิธีเดิมคือการกด Shift + F8 รัว ๆ ในตอนบูทเครื่อง แต่หากเครื่องคุณใช้ไบออสแบบ UEFI หรือเครื่องที่ใช้ไดรฟ์เร็ว ๆ เช่น SSD แทบจะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะ Windows รุ่นใหม่ ๆ มีปรับปรุงทำให้บูทเครื่องได้เร็วขึ้นมาก ส่งผลให้เราไม่สามารถกดปุ่มรัว ๆ สู้ในขั้นตอนการบูทได้อีกต่อไป แต่จะลองดูก็ไม่เสียหายอะไรครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *