Review: Sony Cybershot TX5

รีวิวตัวนี้เขียนไว้เล่นๆ ประมาณเดือนที่แล้ว เรียกว่าดองไปเดือนนึงเต็มๆ กว่าจะได้เอามาลง :p

สำหรับคนที่อยากจะหากล้อง digital compact ไว้ใช้งานสักตัวนึงไว้เก็บภาพประทับใจเมื่อไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวนับว่าเป็นเรื่องลำบากใจไม่ใช่น้อยเพราะปัจจุบันกล้องดิจิตอลมีมากมายร้อยพ่อพันแม่ แต่ละยี่ห้อก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน สำหรับบทความนี้จะนำกล้องตัวหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากอย่าง Sony Cybershot TX5 มาทำการทดสอบให้ชมกัน จะได้หายลังเลใจกันไปข้าง

Sony Cybershot TX5 เป็นกล้องดิจิตอลคอมแพ็คตัวล่าสุดจากทาง Sony ที่เปิดตัวด้วยความสามารถเด่นๆ ที่ฉีกแนวรุ่นพี่รุ่นใดๆ ก่อนหน้านี้มาก่อนคือความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่น กันกระแทก เรียกว่าออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพในทุกสภาพอากาศ ก่อนอื่นมาดูสเปคโดยรวมของตัวเครื่องกันก่อนเลย

  • ชนิดกล้อง: กล้องพกพา
  • ขนาด: 94 x 57 x 18 มิลลิเมตร
  • ความละเอียด: 10.2 ล้านพิกเซล (3648 x 2736)
  • อัตราส่วนภาพ: 4:3 (ทั่วไป), 16:9 (จอกว้าง)
  • ทางยาวโฟกัส: 25mm – 112mm (4.5x)
  • F-Stop: F3.5 – 6.3
  • ISO: อัตโนมัติ, 125-3200
  • ระยะโฟกัสใกล้สุดในโหมดปกติ: 50 เซนติเมตร
  • ระยะโฟกัสใกล้สุดในโหมดมาโคร: 1 เซนติเมตร
  • ความละเอียดในโหมดวิดีโอ: 1280 x 720 (30 เฟรมต่อวินาที) , 640 x 480 (30 เฟรมต่อวินาที)
  • หน่วยความจำ: SD Card, Memory Stick
  • จอ LCD: 3 นิ้ว (จำนวนจุดภายในหน้าจอ 230,000 จุด)

รอบๆ เครื่อง

ด้านหน้า แวววาวเป็นประกาย
เลนส์ แฟลช ไฟช่วยโฟกัส มาครบ

เริ่มกันด้วยที่ด้านหน้า สำหรับตัวที่ผมได้มาทดสอบคือสีแดง ด้านหน้ามีส่วนป้องกันที่ทำด้วยอลูมิเนียม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ TX มาตั้งแต่ตัวแรก เมื่อสไลด์ลงมาด้านล่างก็จะพบกับรายละเอียดของเลนส์ที่ใช้ในกล้องรุ่นนี้พิมพ์แปะไว้คือได้ชิ้นเลนส์จาก Carl Zeiss เจ้าประจำที่สามารถถ่ายในมุมกว้างได้สูงสุดที่ 25mm และสามารถซูมได้สูงสุดประมาณ 112mm (4.5X) และมีไฟแฟลช ช่องไมโครโฟน และไฟช่วยโฟกัสอยู่ด้วย

หน้าจอสั่งงานของ Sony Cybershot TX5

ด้านหลังไม่มีอะไรเลยนอกจากหน้าจอสัมผัสขนาด 3.0 นิ้วที่อยากจะสั่งงานอะไรก็จิ้มเอาได้ทันที

ด้านบนของ Sony Cybershot TX5

เมื่อพลิกมาดูด้านบนก็จะพบกับสวิทช์เปิด-ปิด ปุ่มชัตเตอร์ รวมถึงปุ่มโยกซูมเข้าซูมออก และมีปุ่มที่เอาไว้ชมภาพอยู่ใกล้ๆ กันด้วย สิ่งที่สะดุดตามีอักษรพิมพ์ไว้ตัวเบ้อเริ่มเลยว่า Waterproof 3.0m/10ft ที่เป็นจุดเด่นที่สุดของกล้องรุ่นนี้ คือสามารถกันน้ำได้ในระดับความลึก 3 เมตรนั่นเอง

ด้านล่างมาพร้อมซีลกันน้ำสำหรับช่องใส่หน่วยความจำ และพอร์ทเชื่อมต่อ

สำหรับจุดเด่นที่อยากให้ดูคือด้านล่างของตัวเครื่องครับที่เป็นฝาปิดช่องใส่แบตเตอรีและการ์ดหน่วยความจำ รุ่นนี้สามารถใส่ได้ทั้ง SD Card และ Memory Stick ใครอยากใส่แบบไหนก็ตามสบายเลย และใกล้ๆ กันจะมีฝาปิดพอร์ทเชื่อมต่อเข้ากับโทรทัศน์ด้วย (ในกล่องจะมีสายแยกต่างหากให้) ซึ่งจะถูกฝาปิดแบตฯ ทับไว้อีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่นหนา โดยที่ฝาทั้งสองอันนี้มีส่วนที่สำคัญมากๆ อยู่คือซีลยางกันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาภายในกล้องซึ่งผู้ใช้งานอาจจะเข้าได้หากปิดฝาไม่สนิทหรือไม่ถูกต้องแล้วดันเอาไปลงน้ำ แบบนี้กล้องกลับบ้านเก่าแน่นอน

คุณภาพบอดี้

เรื่องคุณภาพการประกอบผมสำหรับกล้องที่ออกแบบมาเพื่อความ “ถึก” เรื่องนี้ผมต้องยกนิ้วให้จริงๆ ตัวบอดี้ดูแน่นไม่สั่นคลอนอะไรทั้งสิ้น หยิบจับได้อย่างมั่นใจเรียกว่ามั่นใจได้ว่ามันไม่บุบสลายง่ายๆ แน่นอน หากเผลอทำหล่นหรือนั่งทับ มั่นใจได้เลยครับท่าน (แต่ผมไม่ได้ให้เอาไปนั่งทับนะ :p)

การใช้งาน

การเปิดกล้องเพื่อใช้งานสามารถทำได้สองแบบคือเลื่อนฝาสไลด์ด้านหน้า กับกดปุ่มเปิดด้านบน แน่นอนว่าการใช้งานส่วนใหญ่คือสไลด์ฝาหน้า เพราะยังไงเราก็ต้องสไลด์อยู่ดีครับ ส่วนปุ่มด้านบนดูๆ เหมือนเหมาะกับเปิดเครื่องเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นการดูภาพ พวกนี้เสียมากกว่า แน่นอนว่าสไลด์มาแล้วสามารถถ่ายภาพได้ทันทีโดยใช้เวลาสตาร์ทเครื่องเพียง 2 วินาทีเท่านั้นก็สามารถถ่ายภาพได้ทันที ถือว่ารวดเร็วทีเดียวครับ

ภาพหน้าจอขณะใช้งาน

หน้าจอหลักก็จะมีส่วนที่เราใช้งานบ่อยๆ ไม่กี่เมนูดังภาพด้านบน (ในภาพเป็นโหมดถ่ายภาพทิวทัศน์) สำหรับเมนูด้านซ้ายก็จะมีลูกเล่น การเปิด-ปิดแฟลช การตั้งเวลา (สามารถตั้งให้ถ่ายตัวเองเมื่อมีใบหน้าอยู่ในกรอบได้ด้วย) การถ่ายภาพต่อเนื่อง (ได้สูงสุดสิบภาพต่อเนื่อง ส่วนความเร็วก็เลือกเอาในเมนูอีกที) เลือกขนาดภาพที่ต้องการถ่าย ส่วนด้านขวาก็จะเป็นข้อมูลต่างๆ และเมนูเลือกโหมดการถ่ายภาพ และรีวิว ตามลำดับ
การสั่งงานสำหรับกล้องตัวนี้ คือ “จิ้ม” ครับ เมนูต่างๆ ทำงานได้รวดเร็วดี อาจมีหน่วงนิ๊ดดดหน่อยๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ สำหรับผมถือว่าดูดีเลยละสำหรับเมนูกล้องดิจิตอล อักษรสวย ภาพไม่แตก น่าใช้ทีเดียว ความไวในการตอบสนองของหน้าจอก็รวดเร็วดีครับ ไม่ต้องออกแรงกดจอแรงๆ แต่อย่างใด

โหมดที่ผมคิดว่าผู้ใช้ส่วนมากใช้คือโหมดอัจฉริยะที่กล้องตัวนี้ติดมาให้เป็นค่าเริ่มต้นเลยโดยหน้าที่ของมันหลักๆ คือการใช้การคำนวณของกล้องพิจารณาเอาเองว่าสิ่งที่เราถ่ายเหมาะกับที่จะถ่ายด้วยโหมดอะไร สำหรับผมเองถือว่าโหมดนี้เป็นโหมดที่ช่วยผู้ใช้งานได้มากจริงๆ เพราะโหมดนี้เป็นโหมดที่เรียกได้ว่าเป็นแบบ full auto หน้าที่ของท่านๆ คือการเล็งไป และกดชัตเตอร์ เท่านั้นครับ ท่านก็จะได้ภาพสวยๆ กลับมาชนิดไม่ต้องปวดขมองกับการตั้งค่าของกล้อง (เว้นแต่ท่านอยากเปิดหรือปิดแฟลช อันนี้ก็จิ้มไปเปิดเองได้ตามใจชอบ) สำหรับท่านที่ดื้อ ไม่เชื่อกล้องก็สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เองพอสมควร รวมถึงสามารถเลือกจุดโฟกัสได้ด้วย เพียงแค่ท่านจิ้มจุดที่ต้องการโฟกัสบนหน้าจอเท่านั้น!!! ลูกเล่นนี้ผมว่าสำหรับคนชอบถ่ายมาโครน่าจะถูกใจครับ ส่วนการโฟกัสของกล้องโดยรวมก็รวดเร็วดีในสภาพแสงปกติ ถึงแสงน้อยก็ยังทำได้ดีไม่วืดวาดจนน่าหงุดหงิดแต่ประการใด สำหรับท่านที่คิดว่าหน้าจอด้านบนยังดูยุ่บยับไม่เข้าใจ กล้องตัวนี้ยังมี easy mode ที่เป็นโหมดง่ายสุดๆ สมชื่อ โหมดนี้ตัวหนังสือจะใหญ่ขึ้นเพื่อให้อ่านง่าย และตัดลูกเล่นที่ซับซ้อนออกไปหมด เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กๆ ที่ไม่อาจจะไม่ค่อยได้ติดตามเทคโนโลยีและอยากได้อะไรที่เข้าใจง่ายๆ ใช้งานได้ง่ายขึ้นครับ

นอกจากนี้ยังมีโหมดที่น่าสนใจอีกตัวนึงคือโหมด HDR (High Dynamic Range) ที่กล้องใหม่ๆ แทบทุกรุ่นมีโหมดนี้ติดมาให้ ก่อนอื่นเกริ่นกันก่อนว่า HDR คือการถ่ายภาพที่เก็บรายละเอียดทั้งส่วนสว่างและส่วนมืดมาทั้งหมด โดยใช้หลักการนำภาพสองภาพที่มีความสว่างต่างกันเข้ามารวมกัน สำหรับโหมดนี้ถือว่าใช้งานได้ดีและสะดวกสำหรับคนรักภาพสไตล์นี้ครับ โปรเซสให้เสร็จสรรพภายในกล้อง รวดเร็วดีมิใช่เล่น

อีกโหมดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Sweep Panorama ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cybershot มาหลายรุ่นแล้ว โหมดนี้เป็นโหมดพาโนรามาที่ใช้งานง่ายจริงๆ หรือจะเรียกว่าง่ายที่สุดตั้งแต่ผมถ่ายภาพพาโนรามาเลยทีเดียว หน้าที่ของท่านในการที่จะได้ภาพพาโนรามาสักภาพคือ ปรับไปที่โหมดนี้ กดชัตเตอร์ แล้วลากมือไปด้านขวาช้าๆ แค่นั้นครับ แล้วท่านจะได้ภาพพาโนรามาสมใจอยาก ไม่ต้องเล็งให้ตรงกรอบ หรือไปต่อในโปรแกรมแต่งภาพให้ปวดขมองและเสียเวลา

ต่อกันด้วยเรื่องโหมดถ่ายวิดีโอ โหมดที่น่าสนใจอีกโหมดนึง กล้องตัวนี้สามารถถ่ายได้ในความละเอียดที่ 1280 x 720 ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สามารถซูมเข้าซูมออกระหว่างถ่ายวิดีโอได้ด้วยครับ เรื่องคุณภาพเดี๋ยวผมจะแจงให้อ่านกันในภายหลัง

คุณสมบัติในการกันน้ำ

หนึ่งในคุณสมบัติสี่อย่าง (อีกสามอย่างคือ กันฝุ่น กันกระแทก กันความเย็น) ที่ทุกคนอยากทราบ ว่าทำงานได้ดีรึเปล่า ผมได้เอากล้องลงไปเล่นน้ำกับเขาด้วย ก่อนลงก็เช็คให้แน่นอนก่อนว่าปิดฝาใส่แบตฯแน่นดีแล้ว (หากปิดไม่แน่น เวลาเปิดเครื่องจะมีข้อความเตือนให้ทราบ) หลังจากนั้นก็เอาลงน้ำได้เลย ผมบอกได้คร่าวๆ ว่ากล้องตัวนี้เหมาะกับคนที่อยากถ่ายภาพใต้น้ำในระดับที่ไม่ลึกมาก ตามสเปคคือได้ 3 เมตรต่อเนื่องเป็นเวลา 60 นาที ก็ถือว่าทำงานได้ดีครับ ได้ประสบการณ์การถ่ายภาพไปอีกแบบที่กล้องส่วนมากให้ไม่ได้ครับ แถมไม่ต้องซื้อเฮาส์ซิ่งกันน้ำที่มีราคาแพงด้วย ส่วนเรื่องกันฝุ่นกันกระแทกตามสเปคคือหล่นได้ไม่เกิน 1.5 เมตร ผมเองก็คงทดสอบให้ไม่ได้นะครับเรื่องพวกนี้ (ยกเว้นทางนู้นจะให้ผมมายำสักเครื่อง :p) แต่ดูจากบอดี้ มั่นใจได้ว่า “ถึก” แน่นอน

คุณภาพไฟล์

เมื่อเทียบกับคุณภาพกับกล้องคอมแพ็คด้วยกัน รุ่นนี้ต้องบอกว่าทำได้ดีพอสมควร แสงแรงๆ นี่ภาพจัดว่าสวยเลยไม่ต้องห่วงอะไร เรื่องที่น่าจะสนใจกันมากก็คือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ เสียมากกว่า สำหรับกล้องรุ่นนี้สามารถเร่ง ISO ได้สูงสุดที่ 3200 แต่ภาพที่ผมให้คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้คือที่ระดับ ISO 1600 ครับ สำหรับพลังของเซ็นเซอร์ Exmor R ในรุ่นนี้ก็ถือว่าช่วยลด noise ได้ไม่น้อยเมื่อเทียบกับกล้องระดับเดียวกัน

เรื่องของวิดีโอ ผมทดสอบถ่ายที่ความละเอียดระดับ 720p ไมค์ก็ถือว่าดูดเสียงได้ดี เรียกว่าพูดเบาๆ ก็ได้ยินอยู่ บิตเรตของวิดีโอเฉลี่ยๆ แล้วอยู่ที่ 9.1 Mbps ถือว่าเยอะเหลือเฟือครับ เรื่องเสียงก็มาแบบโมโน บิตเรตที่ 64k ครับ

ระยะเวลาการใช้งาน

ผมจับกล้องตัวนี้ไปออกทริปวันนึงเต็มๆ ผมกดไปประมาณสองร้อยภาพ ใช้แฟลชบ้างบางส่วน (ไม่ถึงสิบห้ารูป) แถมถ่ายวิดีโอมาอีกหกนาที ก่อนปิดกล้องแบตฯเหลืออยู่ประมาณหนึ่งขีดครับ ซึ่งถ้าถ่ายไปต่อก็คงน่าจะได้เท่ากับที่กล้องแจ้งไว้ในคู่มือ (250 ภาพ)

ขนาดไฟล์

รูปภาพส่วนมากที่ผมถ่ายมาจะมีขนาดที่แกว่งไปมาตามแต่รายละเอียดของภาพ แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5mb ไม่เกินนี้ ผมใส่การ์ด 4GB ไปด้วยก็จะเก็บได้ประมาณเกือบห้าร้อยภาพโดยเฉลี่ย ส่วนวิดีโอจะถ่ายได้ประมาณ 56 นาที ผมปัดให้แบบกลมๆ คือหากถ่ายวิดีโอด้วยกล้องตัวนี้หนึ่งนาที จะกินพื้นที่ไปประมาณ 60 MB เฉลี่ยอยู่ที่ 1 วินาทีต่อ 1 MB นั่นแล

ภาพตัวอย่าง

25mm @ 1/640s, F4.5, ISO 125
45mm @ 1/6s , F4.0, ISO 1600

บทสรุป

ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผมได้ทดสอบกล้องตัวนี้ถือว่าประทับใจตั้งแต่คุณภาพการประกอบ คุณสมบัติการกันน้ำที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพ วัสดุบอดี้ที่มีคุณภาพสูง การใช้งานที่เรียกว่าง่ายดายมาก โหมดเดียวเที่ยวทั่วไทยได้สบายๆ รูปแบบเมนูที่อ่านง่ายและใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วดี สำหรับผู้ที่มองหากล้องดีๆ สักตัวที่จะทำหน้าที่เก็บภาพประทับใจต่างๆ และดูถึกและทน Sony Cybershot TX5 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่งครับ

ประทับใจ

  • คุณภาพบอดี้และการประกอบ
  • เล็ก และบาง
  • ถึก ทนไม้ทนมือ (ตรงนี้ผมชอบจริงๆ นะเออ)
  • กันน้ำ กันฝุ่น กันกระแทก
  • ภาพสวย
  • ใช้งานง่ายดั่งปอกกล้วย
  • โหมดพาโนรามา ใช้งานง่ายมากๆ ขอบอก (แค่ลากมือ)

ข้อสังเกต

  • ไม่มีสายคล้องคอเวลาถ่ายภาพใต้น้ำ
  • หน้าจอด้านหลังพลาสติกมันวาว เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
  • ขณะใช้งานนิ้วอาจเผลอไปโดนหน้าจอสั่งงานได้บางโอกาส

2 Replies to “Review: Sony Cybershot TX5”

  1. ซื้อมาประมาณ ห้าเดือนแต่ไม่เคยลองใช้ในน้ำจริงๆ จังๆ ปรากฏว่า สีตรงส่วนที่สไลด์เปิดปิดเลนส์ ร่อนหลุดเป็นแผ่นเลย จะเอาไปเคลมกับโซนี่ ไม่รุ้ว่าคุณใช้ไปนานๆมีปัญหาหรือปล่าว ดูทางเน็ตก็เจอคนมีปัญหาเหมือนกัน

  2. ซื้อมาสีชมพู่บานเย็น ซื้อปุ๊ปลงน้ำขึ้นมาสีลอกหลุดเป็นแผ่นเลย เอาไปเคลมกับโซนี่ รู้สึกว่าจะเป็นคนแรกที่ไปส่งซ่อมด้วย โซนี่ส่งเครื่องกลับบริษัทแม่ รอเป็นเดือนกว่าบริษัทแม่จะให้เครื่องใหม่มาแทน เลือกสีเดิม พอลงน้ำก้อลอกเหมือนเดิม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *