![](http://www.techblog.in.th/wp-content/uploads/2011/10/Battlefield-3-Open-Beta-600x300.jpg)
คิดว่าคงได้เล่นกันไปทุกคนแล้วนะครับสำหรับ Battlefield 3 Beta เกมที่หลายคนรอคอยกันมาตั้งแต่ต้นปีที่เพิ่งเปิดให้ทดสอบตั้งแต่วันที 27 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งก็มีทั้งเสียงตอบรับที่ดีและไม่ดีแตกต่างกันไป โพสต์นี้ผมขอบอกเล่าประสบการณ์เล็กน้อยแบบคร่าวๆ หลังจากได้สัมผัส Beta ตัวนี้ว่าประทับใจตรงไหนบ้างอย่างไรและ DICE ซึ่งเป็นผู้พัฒนาน่าที่จะควรจะปรับแก้ไขอะไรตรงไหนบ้าง
![](http://www.techblog.in.th/wp-content/uploads/2011/10/battlefield-3-beta-003.jpg)
สำหรับ beta เราจะได้เล่นโหมด Rush ที่จะมีแผนที่มาให้เราเล่นหนึ่งแผนที่ด้วยกันคือ Operation Metro ส่วนอีกแผนที่คือ Caspian Border ที่เป็นโหมด Conquest ที่เราเห็นๆ กันว่ามีให้เลือกด้วยนั้นทาง EA ไม่เปิดให้ทดสอบสำหรับคนทั่วไป (อาจจะมีเปิดบ้างเป็นบางเวลา) และตอนนี้ได้ยุติการทดสอบไปแล้วครับ สิ่งที่ Operation Metro ให้กับเราคือสมรภูมิสี่พื้นที่ คือธรรมชาติ ใต้ดิน ในอาคาร และนอกอาคาร (ในเมือง) ถือว่าเป็นแผนที่ที่แสดงความสามารถของ Frostbite Engine 2 ได้เป็นอย่างดีครับ
![](http://www.techblog.in.th/wp-content/uploads/2011/10/battlefield-3-beta-002.jpg)
โหมด Rush นั้นมีรูปแบบการเล่นโดยการทำภารกิจโดยมีสองฝ่ายคือ
ฝ่ายป้องกันกับฝ่ายโจมตี
โดยเป้าหมายแต่ละพื้นที่สำหรับฝ่ายโจมตีคือการไปเปิดการทำงานของ M-COM
ให้ได้และถ่วงเวลาไม่ให้อีกฝ่ายมาปลดชนวนจนกว่า M-COM จะระเบิดโดยแต่ละพื้นที่นั้นก็จะมี M-COM สองจุดด้วยกัน เมื่อฝ่ายโจมตีสามารถทำลายได้สำเร็จทั้งสองจุดแล้วตัวเกมก็จะเปิดโซนใหม่ให้เข้าไปทำลาย M-COM กันต่อไปจนกว่าจะจบภารกิจ ส่วนฝ่ายป้องกันก็บอกกันอยู่แล้วคือต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ฝ่ายโจมตีเข้ามาทำลาย M-COM ให้ได้ หากฝ่ายป้องกันสามารถต้านการโจมตีได้จนกว่า Ticket (จำนวนโควต้าในการเกิด) ของฝ่ายโจมตีเหลือ 0 เมื่อไหร่ ฝ่ายป้องกันจะชนะในเกมนั้นไปครับ
ระบบการเล่นของ Battlefield 3 กลับไปคล้ายภาคเก่าๆ คือระบบการหมอบคลานนั้นจะกลับมา รวมถึงยิงกันตายได้ง่ายขึ้นเหมือนภาคเก่าๆ เรียกว่าต้องเซฟตัวเองกันมากกว่าภาคก่อนหน้านี้พอสมควร งานนี้ใครบู๊มากๆ อาจโดนกระสุนปริศนาลงไปนอนได้แบบไม่รู้ตัวกันบ้างละครับ ซึ่งโหมด Rush ที่นำมาให้ทดลองกันนี้ถือว่าเป็นโหมดที่ค่อนข้างเร็วและเน้นการสู้รบอย่างดุเดือดเผ็ดมัน โซนที่อันตรายที่สุดคือบริเวณใกล้ๆ M-COM ที่ยิงกันอีรุงตุงนังไปเลยเพราะต่างฝ่ายก็อยากจะทำภารกิจให้สำเร็จ
![](http://www.techblog.in.th/wp-content/uploads/2011/10/bf3-2011-10-03-12-29-19-56.jpg)
ระบบปืนภาคนี้ถือว่าปรับแต่งได้เยอะมากอย่างที่ใจต้องการกันเลย เรียกว่าคุณอยากได้อะไร accessories เกมนี้เขาจัดให้แทบจะครบทุกอย่าง ถือว่าเป็นการปรับปรุงที่พัฒนาจากภาค Bad Company 2 ขึ้นไปอีกขั้น
สรุปแล้วค่อนข้างพอใจในรูปแบบของตัวเกมที่ควรจะเป็น ถ้าหมายถึงพวกอารมณ์ความรู้สึกนี่ผมชอบมากกว่า Bad Company 2 เพราะภาคนั้นผมถือว่าเป็นภาคขัดตาทัพ ส่วนตัวผมอยากจะรอดูโหมด Conquest ที่เป็นหัวใจหลักของซีรี่ส์นี้มากกว่าว่าจะพัฒนาไปมากแค่ไหน ซึ่งเท่าที่ดูจากวิดีโอหรือคอมเม้นท์ต่างๆ ที่พูดถึง Caspian Border นั้นค่อนข้างประทับใจกันมากเลยทีเดียว ส่วนเรื่องบั๊กนี่หลายคนเจอมากเจอน้อยไม่เหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่าข้อบกพร่องในตัวระบบยังมีเยอะจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นบั๊กกราฟิก การเคลื่อนไหวของตัวละคร หรืออื่นๆ ที่หลายคนพบเจอมากน้อยแตกต่างกันไป ก็ได้แต่หวังว่า DICE จะแก้เรื่องพวกนี้ให้หายเป็นปลิดทิ้งได้ในเกมเวอร์ชั่นเต็มที่จะออกวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ครับ
ชอบ
– อารมณ์ภาคเก่าๆ ที่กลับมา
– ปืนปรับแต่งได้เยอะ
– hitbox ที่ดีกว่าเดิม
– ภาพงามหยดย้อย
ไม่ค่อยชอบ
– สไนเปอร์โหดเกิ๊น (DICE บอกแล้วว่าจะแก้)
– บั๊กมหากาพย์สาธยายกันไม่หมด
ทิ้งท้ายด้วยวิดีโอคนที่ได้เข้าไปทดสอบแผนที่ Caspian Border ครับ ดูแล้วคุณจะลืม Operation Metro ไปเลย