เว็บไซต์ที่เราเข้าๆ กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ มากมาย และนับวันก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพียบแต่จริงๆ แล้วส่วนประกอบส่วนใหญ่ที่ทำให้หน้าเว็บหนักและโหลดช้านั่นก็คือรูปภาพ
โลกยุคนี้เป็นเว็บที่เต็มไปด้วยรูปภาพจำนวนมาก เรียกได้ว่าจะหาเว็บที่ตัวหนังสือเยอะๆ รูปแทบไม่มีแบบเมื่อก่อนก็แทบจะไม่ค่อยมีแล้วเพราะปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นมากทำให้สามารถโหลดสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วจากเมื่อก่อนมีแต่ตัวหนังสือ ปัจจุบันมีทั้งสคริปต์อื่นๆ รูปภาพ ยันไปจนถึงวิดีโอก็ยังไหว
ฟอร์แมทรูปเกือบทั้งหมดบนเว็บนั้นใช้ไฟล์ฟอร์แมต jpeg ที่เป็นฟอร์แมตแบบ lossy ที่จะมีสูญเสียคุณภาพไปตามกาลเวลาและจำนวนครั้งที่บีบอัดและเป็นไฟล์ที่มีการคิดค้นกันมาตั้งแต่ปี 1992 นู่นเลย ถึงตอนนี้ก็นับได้ว่าเวลาผ่านไปยี่สิบปีเข้าไปแล้วที่ jpeg ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกและได้รับความนิยมและโปรแกรมแทบทุกตัวก็รองรับ
แต่ปัญหาคือสิ่งที่เราเรียกได้ว่าดีอยู่แล้วอาจจะดีไม่พอก็เป็นไปได้ เพราะ jpeg นั้นทำให้กินทรัพยากรในการใช้งานเครือข่ายพอสมควร หากเราใช้บนมือถือก็อาจจะทำให้โควต้าเน็ตของคุณเต็มได้โดยง่ายหากเรานิยมเสพย์รูปภาพโดยเฉพาะบน social network ที่เรานิยมใช้กันอยู่ในตอนนี้ เราอาจจะเรียกว่าไฟล์มันเล็กพอแล้วสมกับคุณภาพของรูปที่ได้ (หากเราเซฟเอาคุณภาพดี ไฟล์ก็จะยิ่งใหญ่ แน่นอนว่ามันจะกิน bandwidth มากกว่าปกติ) แต่จะดีกว่ามั๊ยหากมีการปรับปรุงอัลกอริทึมการบีบอัดของ jpeg ให้ดีกว่านี้หลังจากที่ใช้ของเดิมกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว (จริงๆ มีเจ้าอื่นที่ทำออกมาอีกเยอะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยในการบีบอัดให้ดีขึ้นเท่าไหร่นัก)
Mozilla ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เรารู้จักกันดีผ่านโปรแกรมเบราเซอร์ Firefox ได้คิดโปรเจคใหม่ขึ้นมาโดยจะคิดวิธีการบีบไฟล์ jpeg รูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยทำมาก่อนให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม แต่ได้คุณภาพที่ดีขึ้นโดยโปรเจคนี้มีชื่อว่า mozjpeg ที่ตั้งเป้าว่าจะทำให้เว็บที่เราใช้งานกันอยู่นั้นกิน bandwidth ที่ต่ำลงผ่านการบีบอัด และขณะนี้ก็ได้ออกเวอร์ชั่นแรกมาแล้วบน github โดยพื้นฐานของโค้ดทั้งหมดนั้นมาจาก libjpeg-turbo และมีการเพิ่มฟังก์ชั่นอย่าง jpegcrush เข้าไปด้วย จากการทดสอบสามารถแปลงไฟล์จาก png มาเป็น jpeg ได้ขนาดเล็กลง 2-6% ส่วนการบีบไฟล์ jpeg ของเดิมที่มีอยู่แล้วสามารถลดขนาดได้สูงสุดถึง 10%
แน่นอนว่า Mozilla จะไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ก้าวต่อไปคือการนำเทคนิค Trellis Quantization เข้ามาใช้งานเพื่อทำให้ขนาดไฟล์เล็กลงไปอีก อนาคตอาจจะทำให้เราใช้ bandwidth ต่ำลงในขณะที่ได้รูปที่สวยงามกว่าเดิม แค่คิดก็น่าสนใจแล้วใช่มั๊ยละ
via TheNextWeb, Project mozjpeg